แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระราม4 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระราม4 แสดงบทความทั้งหมด

โจ๊กสามย่าน หลังตลาดสามย่าน, ตรงข้ามปากซอยจุฬา46

มาเขียนเพิ่มหลังจากที่เคยเอาลิสต์
รวบรวม10 ร้านโจ๊กอร่อยทั่วกรุง มาฝากครั้งนึงแล้ว

คราวนี้สบโอกาสมาเขียนถึงโจ๊กสามย่านก่อน
เพราะไปกินมาหลายครั้งแล้ว
ก็ยังไม่ได้เขียนถึงสักที

ตัวผมนั้นไม่ใช่คอโจ๊ก
คือหมายถึงไม่ค่อยตลก เอ๊ย! หมายถึงไม่ค่อยได้ทานโจ๊กเป็นประจำเท่าไหร่
จะมานึกอยากทานก็ตอนไม่ค่อยสบาย เจ็บคอ
หรืออยากอิ่มแบบสบายๆท้องไม่หนักท้องประมาณนั้น
เลยไม่ค่อยจะรู้จักร้านอร่อยๆเท่าไหร่
ร้านนี้ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วแต่ก็ไม่ได้ลิ้มลองสักที

พอดีวันนั้นไปตามหาร้านเล้งกี่ ราดหน้า
โชคชะตาก็เลยพาให้มาพบกัน
รสชาติก็ตามที่ในลิสต์เขียนอธิบาย



คือเนื้อโจ๊กจะออกข้นๆ
รสหวานของน้ำซุปและข้าวกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว
เนื้อหมูปรุงรสมีรสพริกไทย
เวลากัดจะมีรสน้ำปรุงรสกระจายออกมาจากเนื้อหมู
(ไม่รู้ผงชูรสเยอะไหมแต่ก็อร่อยดี)
โรยด้วยหอมซอยและขิงสด
ขิงสดๆนี่กินแล้วสดชื่นและสบายท้องดีจริง


ถือว่าถ่ายรูปมาฝากก็แล้วกันนะครับ

โจ๊กหมูใส่ไข่ครับ



โรยเพิ่มด้วยปาท่องโก๋กรอบตัวเล็กๆห่อละห้าบาท



จะกินไข่ละนะ



บรรยากาศร้านห้องแอร์นั่งสบาย

เมนูและราคาครับ



ต้มน้ำซุปเพิ่มความหวานให้กับข้าว



คนรวมกันกับหมูบด



อิ่มอร่อยไปอีกหนึ่งมื้อครับ


--- แผนที่ร้านครับ ---

ว่าด้วยเรื่องรีวิวอาหาร

เล้งกี่ ราดหน้าฮ่องกง ตลาดสามย่าน

ได้ไปลองชิมสักที"ราดหน้าเล้งกี" ่ที่น้องชายแนะนำ
ไปชิมมาสักสองอาทิตย์ได้แล้ว
แต่ไม่ได้เขียนถึงสักที
แถมยังหาร้านไม่เจออีกต่างหาก
ต้องโทรถามเจ้าตัว
เสียฟอร์มมาก (- -'

ที่จริงอยากไปชิมก่อนอีกหลายเมนู ค่อยมาเล่า
แต่เสียดายวันนั้นแบกกระเพาะไปชิมไม่ไหว
ทำได้แค่สอง..
วันนั้นถ่ายรูปมาก็ไม่เด็ดเท่าไหร่
แต่ช่วงนี้ยังไม่ค่อยได้ออกไปหาอะไรชิมที่ไหน
เลยขอขุดของเก่ามาเล่าหากินก่อน

ร้านเล้งกี่นี่เป็นร้านราดหน้าสไตล์ทำทีละจานแบบที่ผมชอบ
เนื่องจากทำทีละจานปรุงทีละจาน
จึงส่งผลให้การรอคอยยาวนานยิ่งนัก
ทางร้านก็คงจะรู้ใจลูกค้าดี
ถึงขนาดมีป้ายแปะเตือนไว้กลายๆ
ผมก็จำไม่ได้แน่นอนประมาณว่า

"กรุณารอ ร้านทำทีละจาน ไม่ได้ทำทิ้งไว้"

อย่าใจร้อนนะจ๊ะ จะบอกให้ ประมาณนั้น
แต่ก็เห็นมีคนมารออยู่แยะไป
ไม่ได้มีใครหงุดหงิดอารมณ์เสีย



รอๆๆ อ่านการ์ตูนรอ




ร้านนี้สังเกตว่าน่าจะทำอาหารจานกระทะอร่อย
เนื่องจากลักษณะการทำอาหาร จะผัดด้วยไฟแรงๆ
ทำให้หอมควันหอมกลิ่นกระทะ
ไม่มีการล้างกระทะให้เสียเวลา
แกสต๊อคกระทะไว้เพียบ
ผัดเสร็จก็ยกกระทะใหม่ผัดต่อเลย



วันเสาร์ผมไปถึงประมาณสิบเอ็ดโมง
หาที่จอดรถได้พอหาร้านเจอคนก็นั่งกันอยู่เกือบเต็มร้าน
มีที่ให้ผมนั่งพอดี
หยิบเมนูขึ้นมาดู
ทั้งๆที่มีในใจอยู่แล้วว่าจะกินราดหน้า



น้องชายฝากมาลองราดหน้ากุ้งแม่น้ำ
เหลือบดูเมนูอยู่ด้านบนสุดเลย
เห็นราคาก็นึก หึหึ...สบาย

"เอาราดหน้าเนื้อ กับผัดซีอิ๊วเนื้อครับ"

ลองแบบพื้นๆวัดฝีมือก่อนดีกว่า (^^'
เดี๋ยวกินกุ้งจะเทคะแนนเพราะกุ้งอีก
(ว่าเข้าไปนั่น จริงๆแล้วไม่มีตังค์ ฮ่าๆๆ)

เล่นสองไปเลยดีกว่าเรา
รวบมื้อเช้าและกลางวัน

นั่งรออยู่นานปานว่าถ้ามีหนังสือพิมพ์ติดมือมาด้วย
คงอ่านเกือบจบเล่ม
แต่ผมก็ไม่ได้นั่งเบื่ออะไร
ด้วยเพลิดเพลินไปกับการมองเขาทำอาหาร
และสาวๆโต๊ะข้างๆ แฮ่ม!

แต่ก็ทรมานโคตรเมื่อกลิ่นหอมๆโชยมาจากหน้าเตาฟู่ๆ
แล้วยกออกมาให้โต๊ะอื่น
แทนที่จะเป็นโต๊ะเรา

สิบห้านาทีผ่านไป..



ราดหน้าเนื้อ หอมฉุย ร้อนจี๋ ก็มาวางอยู่ข้างหน้าผม
ผมค่อยๆละเลียดทานทีละนิด
ไม่รีบสวาปามด้วยความหิว เกรงว่าจะไม่ได้ลิ้มรสอร่อยที่เขาเล่ามา

ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่สีขาวๆถูกผัดกลิ้งไปกลิ้งมา
ท่ามกลางกลุ่มควันสีขาวพวยพุ่ง
บนกระทะร้อนๆอย่างรวดเร็ว จนผิวเกรียม และหอมกรุ่น
แต่สัมผัสของเส้นภายในยังคงเหมือนเดิม นุ่มหนึบ ไม่เละร่วน



ราดมาด้วยน้ำราดหน้าสีเข้ม
รสชาติสไตล์เดียวกับ "ร้านต้นตอ" แถวแยกรัชดาลาดพร้าวที่เคยไปลองลิ้ม
แต่รสของร้านนี้จะอ่อนกว่า กลมกล่อม อร่อยดี
ราดมาแต่พอควรไม่เหนียวข้นมากนัก
กินคลุกเคล้ากับเส้น
ซดลื่นๆละมุนลิ้น

ผักคะน้ากรุบกรอบสีเขียวสดไม่เหี่ยวไม่สลด
เหมือนราดหน้าแบบที่ทำน้ำราดเตรียมไว้แล้ว
แต่จะได้กลิ่นเหม็นเขียวของคะน้านิดๆ

เนื้อหมักนุ่ม โดนผัดด้วยไฟแรงๆผิวจะออกเกรียมไปนิด
แต่สัมผัสเนื้อยังคงนุ่มอยู่
น่าจะหมักด้วยเบคกิ้งโซดา กลิ่นมันออกหน่อยๆ
เนื้อที่หมักแบบนี้รสเนื้ออาจจะหายไปบ้าง
สู้เนื้อดีดีแท้ๆ ที่ไม่หมักไม่ได้
แต่ก็จะได้ของทดแทนคือความนุ่มของเนื้อ



ห้านาทีผ่านไปก็หายไปหมดเกลี้ยงจาน

ต่อด้วยผัดซีอิ๊วเนื้อ

จานนี้ก็อร่อยถูกใจทีเดียวครับ
ใครไม่ทานเนื้อวัวก็มีเนื้ออื่นๆอีกหลายชนิด
ีอร่อยเหมือนกัน





ผัดซีอิ๊วคลุกเคล้ากับเส้น
หอมทั้งไข่ทั้งซีอิ๊ว
ปรุงรสกลมกล่อม เค็มนิดๆออกมันๆด้วยรสของไข่
และน้ำมันเคลือบเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มๆ ผัดน้ำมันน้อย ไม่เลี่ยน
ไม่ออกสไตล์เข้มข้น
ผักกรุบกรอบเช่นเคย
แต่เนื้อออกจะแห้งเกรียมไปหน่อย
คงแพ้ไฟแรงๆ

สรุปก็อร่อยล่ะ




ดูเมนูอาฆาตไว้
อยากกลับมาทานอีกคือข้าวผัดปลาเค็ม
ดูสไตล์การผัดการใช้กระทะแล้ว
น่าจะทำอาหารจานกระทะอร่อย

สรุปก็มาร้านนี้ผมติดใจและไม่ผิดหวัง
อยากมากินอีกครับ


หน้าร้าน
ถ่ายมาไม่ดีเท่าไหร่
เดินออกมาไกลแล้ว
ขี้เกียจเดินกลับ



ร้านนี้หาไม่ยากเท่าไหร่ครับ
เลี้ยวซ้ายมาจากถนนพระรามสี่
เห็นร้านโจ๊กสามย่านทางขวามือ
ก็อยู่ซอยตรงกันข้ามล่ะครับ
หรือถ้าเข้าไปจอดรถในตลาดสามย่านก็วนๆหน่อย
เดี๋ยวก็ได้ที่จอด
แล้วก็เดินมาทางท้ายตลาด
ทะลุมาทางซอยจุฬา50 ก็จะเจอครับ

อ้อ..อย่าลืมแวะตลาดสามย่าน
ซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านเล่นฆ่าเวลารอสักเล่มนะครับ ^^

--- แผนที่ร้านครับ ---

ว่าด้วยเรื่องรีวิวอาหาร


ปล.
มาเพิ่มเติมอีกหน่อย
น้องชายเพิ่งไปชิมมาเพิ่มครับ
มีผัดซีอิ๊วหมู และราดหน้าหมู
ตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ
เล้งกี่ ราดหน้าฮ่องกง

ร้านสว่าง บะหมี่เกี๊ยวก้ามปู หัวลำโพง

ร้านนี้ขายตอนเย็นๆ
ตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันห้าทุ่ม
เดินทางเส้นพระรามสี่จากสามย่าน
มาทางหัวลำโพง
ถ้าตอนเย็นๆพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว
ด้านซ้ายมือจะเห็นไฟสีเขียวๆ
ข้างๆร้านกวางสวัสดี
นั่นแหละใช่เลย

จอดรถตรงป้ายรถเมล์แหละ
หรือถ้าสะดวกขึ้นรถใต้ดินหรือรถเมล์
มาโผล่หัวลำโพงก็สะดวกสุดๆ

ร้านนี้มีชื่อเสียงมากในทางราคาแพงและรสชาติดี
เริ่มต้นบะหมี่เกี๊ยวปูธรรมดาก็ห้าสิบบาทแล้ว!!
บะหมี่ปูอย่างเดียวร้อยนึง
ใส่ก้ามปูเข้าไปก็ถึงสองร้อยแล้วแต่ขนาดก้ามปู

นอกจากต้องมีตังค์ติดกระเป๋ามาพอสมควรแล้ว
มากินที่นี่ต้องเป็นคนธรรมะธรรมโมด้วย
เนื่องจากที่นี่เขาจะหยุดขายวันพระ
คือต้องเปิดปฏิทินดูมาก่อนเป็นดี
เพราะมาบางครั้งร้านก็ปิดซะเฉยๆอย่างงั้นแหละ

สืบไปสืบมาก็ได้ความว่า
ที่เขาปิดวันพระก็เพราะว่า
วันพระโรงฆ่าสัตว์จะหยุด
กระดูกหมูสดๆจะไม่มีขาย
พอไม่สดก็กลัวจะไม่อร่อยเท่า
ก็เลยไม่ขายมันซะเลยดีกว่า

ร้านนี้เป็นบะหมี่สไตล์กวางตุ้ง

เส้นบะหมี่ผมทานก็อร่อยดี
แต่ก็อร่อยแบบทั่วไปไม่ได้โดดเด่นอะไรนัก



ผมสั่งบะหมี่เกี๊ยวแห้งปูหมูแดงมาทาน
แบบธรรมดาราคาห้าสิบบาทเนื้อปูให้มาน้อยมาก
เหมือนโรยหอมผักชีมาให้อย่างงั้น
แค่พอให้เห็นเอง
ใครชอบกินเนื้อปูมาร้านนี้ผมเกรงว่าจะไม่คุ้มค่า
สู้ร้าน บะหมี่ปู ตั้งเลียกเส็ง บางขุนนนท์ ไม่ได้
ร้านนั้นกินแล้วรู้สึกคุ้มค่าสะใจกว่าสี่สิบบาทเท่านั้น
เนื้อปูผมไม่รู้คนละอย่างกันหรือเปล่า(แยกไม่ออก รู้แต่อร่อยเหมือนๆกัน)
ทำไมให้ปริมาณต่างกันจังเลย




หมูแดงรสออกเค็มๆหวานๆมันๆสีจะออกคล้ำๆหน่อย
กินเข้ากับบะหมี่ได้ดี

ส่วนบะหมี่ก้ามปูผมก็ยังไม่กล้ากิน
รู้สึกว่าแพงจริงๆ
เดี๋ยวไว้ถูกหวยไม่ก็ตัดใจได้ก่อนแล้วกัน
จะขอกินสักชามนึง

ขออนุญาตเอารูปจากที่อื่นมาแปะก่อนแล้วกัน
จากเว็บสาระแนดอทคอมครับ
http://www.saranair.com











สำหรับร้านนี้จะว่าไปผมถูกใจที่น้ำซุปกับเกี๊ยวกุ้งมากกว่า
น้ำซุปหวานน้ำต้มกระดูกจริงๆอย่างที่เขาหวงไว้
แล้วก็หอมพริกไทยดี

อีกอย่างร้านนี้ซื้อใสห่อกลับนี่
มีแต่แบบแห้งนะครับ
ี่คือไม่มีถุงใสน้ำซุป่ให้
อยากได้ต้องเอาปิ่นโตมาใส่เอง
เขาว่ากลัวเอากลับบ้านแล้วมันเย็นไม่อร่อย
เดี๋ยวเสียชื่อร้านเขาหมด(อะไรจะขนาดนั้น..)

เกี๊ยวกุ้งที่นี่คือกุ้งเป็นตัวๆเลยครับ
กินแล้วนุ่มหนึบกรอบกรึบกรั๊บดี
ปรุงรสห่อมาในเกี๊ยวเรียบร้อย



ด้วยความอยาก..
หลังจากซัดชามแรกบะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดงแห้งไปชามนึงแล้ว
ไม่อิ่ม ไม่อิ่มจริงๆครับ มันน้อยอ่ะ

แถมยังรู้สึกว่ายังไม่ได้กินเนื้อปูเลย
จึงสั่งบะหมี่เกี๊ยวปูอย่างเดียว

เขาบอกว่าใส่ปูอย่างเดียวคิดชามละร้อย

เอาสิ..เอาก็เอา

งั้นเอาเกี๊ยวน้ำมาอีกชามนึงด้วยก็แล้วกันหมดเรื่องหมดราว

บะหมี่เกี๊ยวปูชามละร้อย..





เกี๊ยวน้ำห้าสิบบาท
มีห้าลูก..





ไหนลองคีบมาดูซิ ตั้งร้อยนึง
ได้กรรเชียงปูมาข้างนึง(ถึงหรือเปล่าหว่า..)




เช็คบิลมาก็สองร้อยสองบาท
บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง = 50
บะหมี่เกี๊ยวปู = 100
เกี๊ยวน้ำ = 50
ค่าน้ำแข็งสองบาท

ถ้าจะมาทานควรเตรียมตังค์มาสักสามร้อยจะอุ่นใจมาก

ก็อร่อยดีครับ
แต่รู้สึกว่าราคาแพงไป
และให้ปูน้อยไปหน่อยไม่ค่อยคุ้มราคาเท่าไำหร่

ผมว่าร้านนี้มาทานเกี๊ยวกุ้งจะเข้าท่ากว่า
สั่งบะหมี่แห้งธรรมดามาซดน้ำกับเกี๊ยวกุ้ง
ก็น่าจะโอเค

ส่วนใครโบนัสออกอยากจะเล่นบะหมี่ก้ามปูก็ไม่ว่ากันครับ ^^






แผนที่ร้านใน Google Maps ครับ

----------------------
ปล.
เนื่องจากช่วงนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า
ชักจะรีวิวอาหารบ่อยไปแล้ว ฮ่าๆ
เลยมาแก้ตัวหน่อยว่า
จริงๆำไปถ่ายเก็บไว้ตั้งนานแล้ว
แต่ไม่ได้มาเขียนถึงสักที

แล้วอีกอย่างเดี๋ยวนี้ไปกินอะไร
ก็คอยแต่จะถ่ายรูปเก็บก่อน
จนเมียด่าแล่ว
คนจะกินถ่ายอยู่ได้ (T-T

ตอนนี้มันก็เริ่มเยอะเข้าๆ
นานๆไปเดี๋ยวจะลืมรสชาติไปเสียหมด
เลยเอามากระหน่ำรีวิวคร้าบ
ว่าด้วยเรื่องรีวิวอาหาร