Wonderful Town : เสน่ห์ตะกั่วป่า


หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองในปีนี้
ต่อจาก Across the universe
ที่ผมอุตส่าห์ดั้นด้นไปดูถึงในโรง

ปกติผมแฟนหนังแผ่นครับ
แต่เรื่องนี้รู้สึกว่ามันคงหาดูยาก
และมีโลเกชั่นกับเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ
เลยตามไปดูตามคำแนะนำของคุณโอม

ตอนแรกเห็นว่าเมื่อคืนเป็นวันสุดท้ายก็เลยแจ้นไปดู
กลับบ้านแล้วแท้ๆ ยังอุตส่าห์ขับรถออกมาอีก

เนื้อเรื่องคร่าวๆก็เป็นเรื่องความรัก
ของสถาปนิคหนุ่ม เงียบๆ จากกรุงเทพ
เดินทางมาตะกั่วป่าเพื่อมาคุมงานโรงแรมที่เขาหลัก
ที่พังพินาศจากเหตุซึนามิ
แล้วก็มาพักที่โรงแรมในตัวเมืองตะกั่วป่า
ที่ดูเก่าแก่ ร่มครึ้ม และเงียบสงบ
โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเล

ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นเงียบๆ
ในเมืองเงียบๆ
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบๆ
ที่เคยคึกคักแล้วก็เงียบหลายไป
หลายครั้งหลายครา
ทั้งช่วงเหมืองบูม
ช่วงท่องเที่ยวบูม
ถ้าเมืองตะกั่วป่ามีหัวใจ
สภาพจิตใจของเมืองคงขึ้นๆลงๆเหมือนกราฟ sine

แน่นอนว่าคนที่หนีมาจากเมืองหลวง
มาอยู่ที่สงบๆแบบนี้
คงต้องอยากหลบหนีอะไรมาจากบรรยากาศเดิมๆ
อยากอยู่เงียบๆไม่วุ่นวาย
ในเมืองที่เงียบสงบ

ปมจะคลี่คลายไปในทางใด
ก็คงอยากให้ไปลองดูกันเอง
พล็อตอาจไม่โดดเด่นนักตามความรู้สึกของผม
พอจะคาดเดาได้

แต่สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้คือ
อารมณ์ของหนัง ภาพ บรรยากาศ และเพลงประกอบ
ที่ดูไม่ยัดเยียดเกินไป
อธิบายความงามได้ตามสภาพที่มันมีอยู่จริง (กำกับภาพเก่งมาก)
ไม่ประดิดประดอยเสริมแบบฮอลลีวูด








อารมณ์ดูหนังเรื่องนี้เหมือนนั่งอ่านหนังสือสักเล่มนึง

ได้มีเวลาคิดตาม
ไม่เหมือนนั่งดูโทรทัศน์ในปัจจุบันที่คอยยัดเยียดอารมณ์ความรู้สึกของผู้ทำมากเกินไป

อย่างน้อยก็มีช่องว่างให้คิดตาม

บางคนอาจไม่ชอบหนังลักษณะนี้
อาจดูเนือย ตัดไม่กระชับฉับไวเหมือนสไตล์ฮอลลีวูด
บทพูดอาจไม่มากนัก
แต่ถ้าชอบดูหนังแล้วคิดตาม ว่าตัวละครคิดอะไรอยู่
เรื่องนี้คุณจะได้ซึมซับอะไรบางอย่างมาได้พอสมควรทีเดียว

ผมเดินขึ้นรถพร้อมขับกลับบ้านเงียบๆ
ครุ่นคำนึงถึงบรรยากาศและภาพในหัวของตัวเอง
ถ้าเปลี่ยนโลเกชั่นมาทำหนังที่บ้านเกิดสุโขทัยบ้าง
จะเอาที่ไหนดี (^^

ลองไปดูกันนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น