ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ"มิตรโภชนา" ท่าพระจันทร์



















บลอคนี้ผมเขียนเอาไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2551
ไม่น่าเชื่อว่าประเทศเราจะทะเลาะกันยาวนานขนาดนี้
นอกจากทะเลาะกันเองแล้วยังทะเลาะกะข้างบ้านอีกต่างหาก..

ผมคิดว่าคงอีกนาน เพราะเราอยู่ในยุคของการเปลี่ยนผ่าน
ในช่วงชีวิตของผมคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่างแน่ๆ
ลองดูบรรยากาศเมื่อสามปีที่แล้วดูครับ
---------------------------------------


มาเยือนถิ่นธรรมศาสตร์และการเมือง ย่านท่าพระจันทร์
ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองอันร้อนแรงในเดือนมิถุนายน
ความเห็นแตกต่างกันสุดขั้ว
ขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรง
เนื่องจากมีแต่คนชอบคิด
แต่ไม่มีคนชอบทำ
ดังนั้นแค่คิดก็ทะเลาะกันเสียแล้ว

อ่า..ชักยาวแค่นี้ก่อน ^^
เรื่องปากท้องของเราเอง
ประชาชนตาดำๆอย่างเราๆท่านๆ
ก็คงต้องดิ้นรนหากินกันต่อไป


ว่าแล้วก็เดินดุ่มๆ็หาปัจจัยสี่มาใส่ท้องกันดีกว่า
ของอร่อยๆคงพอพาให้ลืมโลกเบี้ยวๆไปได้ชั่วขณะ

ร้านนี้เคยไปชิมมานานแล้ว
จำได้ว่าอร่อย
แถมช่วงนั้นยังไปกินบ่อยเสียด้วย
เนื่องจากเคยไปอินเลิฟสาวธรรมศาสตร์คนดีแสนสวยและน่ารัก
ซึ่งตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว ฮือๆๆ
ช่วงนั้นเรียกว่าเดินทะลุท่าช้าง ยันท่าพระจันทร์จรดท่าพระอาทิตย์เป็นว่าเล่น
ร้านนี้ก็เป็นหนึ่งในร้านในดวงใจ
ที่ทานแล้วประทับใจ คิดถึงและอยากไปซ้ำอีกเสมอ



ร้านนี้มีน้ำซุปที่ถูกปากผม
รสประมาณเดียวกับร้านโส่ย ถนนพระอาทิตย์
ซดแล้วมีรสอร่อยติดที่ปลายลิ้น
ไม่ใช่น้ำซุปประเภทอร่อยในปาก
ไหลลงคอแล้วก็แล้วกัน
น้ำซุปแบบที่ผมชอบนี่่ คือทานเข้าไปแล้ว
รสชาติมันก็ยังวนเวียนอยู่บนลิ้น อร่อยติดลิ้นว่างั้นเถอะ
อธิบายไม่ถูกต้องลองไปชิมกันดูครับว่าจะรู้สึกเหมือนกันไหม




ส่วนเนื้อสดและเนื้อเปื่อยก็อร่อยครับ
เนื้อสดนุ่มลวกดีไม่สุกเกิน
เนื้อเปื่อยก็อร่อยนุ่มใช้ได้ครับ

เอาแบบรวมๆเลยก็
ร้านนี้มีดีที่น้ำซุป หอมและรสดี
ถ้าชอบรสชาติแบบร้านโส่ยฯ
มาทานร้านนี้ก็น่าจะชอบด้วยนะครับ

กินตามสูตรไม่ปรุงน้ำซุป
ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วยแยกมาจิ้มต่างหาก



ผมสังเกตว่าร้านที่น้ำซุปอร่อยๆ
เขาจะมีถ้วยใบเล็กๆมาให้
ใส่รวมอยู่ในกล่องตะเกียบนั่นแหละครับ
เจตนาเขาคงไม่อยากให้ปรุงน้ำซุปอร่อยๆของเขาจนเสียรส

ส่วนก๋วยเตี๋ยวแห้งจะไม่ใส่ซีอิ้วดำมาให้
แต่จะมีตั้งไว้บนโต๊ะให้เราราดเอง
เหมือนร้านลูกชิ้นเนื้อเท็กซัสที่เยาวราช
ถ้าจะลองกินแบบไม่ใส่ซีอิ๊วก็อร่อยไปอีกแบบ
มีรสชาติเหมือนกัน เหมือนว่าเขาจะใส่น้ำซุปมาด้วยนิดหน่อย
หรือไม่ก็ใส่ซีอิ๊วขาวมาแล้วนั่นแหละ ไม่จืดหรอกครับ
มีรสมีชาติ
ผมทานไปครึ่งชามแล้วค่อยมาราดซีอิ๊ว
อร่อยทั้งสองแบบ



ราคาก็ไม่แพงนะครับ
ก๋วยเตี๋ยวหรือเกาเหลา
ถ้าไม่เรื่องมากอยากกินเกินสามอย่างก็ราคา 40 บาท
เกินกว่านั้นก็ 50 บาท

ทานเสร็จเดินดูสาวๆธรรมศาสตร์ ศิลปากร
ย่อยเนื้อไปพลางๆก็ถือว่าคุ้มที่ถ่อมากินแล้วล่ะครับ (^^



ใครมีรถที่จอดรถแถวนี้ก็พอมีอยู่นะครับ
จอดที่ S&P มหาราช หรือในวัดมหาธาตุฯก็ได้ครับ
ถ้าจอดในวัดรู้สึกจะถูกกว่านะครับ

--- แผนที่ร้านครับ ---

--- ที่จอดรถ ---

ว่าด้วยเรื่องรีวิวอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น